
QR Code หรือบาร์โค้ด 2 มิติ ในกรอบสี่เหลี่ยมลายเขาวงกตขาวดำ กำลังเข้ายึดทุกพื้นที่ทางการตลาดไปทั่วโลก ไล่ตั้งแต่บนป้ายโฆษณาสินค้า, ป้ายชื่อร้าน, บรรจุภัณฑ์, ป้ายราคา หรือแม้แต่บนนามบัตร
ยิ่งขยับมาในยุคของบาร์โค้ด 3 มิติ AR (Augmented Reality) ด้วยแล้ว ทุกอย่างถูกใช้เป็นสื่อโฆษณาได้ ทั้งตัวอาคาร ถนนหนทาง ซึ่งให้ข้อมูลได้มหาศาลกว่า และประยุกต์ใช้ได้หลากหลายจนถูกมองว่าจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลกในไม่ช้านี้
ปัจจุบัน QR Code นับเป็นเทรนด์ใหม่ ที่บรรดาเจ้าของสินค้าและบริการทั้งหลายนำมาใช้กันมาก แต่มีคนจำนวนไม่น้อยยังไม่คุ้นเคยและไม่เข้าใจว่าคืออะไร
แต่สำหรับคนที่ใช้บีบี-แบล็คเบอร์รี่จะคุ้นเคยกันดี เพราะการสแกน QR Code เป็นหนึ่งในวิธีแลกพินสำหรับใช้แชตของ สาวกบีบี
พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นอีกนิด QR Code คือพัฒนาการของบาร์โค้ดจากมิติเดียว (1D) แบบเดิมที่บรรจุข้อมูลสินค้า และบริการต่าง ๆ เป็นสัญลักษณ์แบบแท่ง แนวตั้ง แต่ QR Code เป็น 2D หรือ 2 มิติ เพิ่มมิติในแนวนอนขึ้นมาทำให้บรรจุข้อมูลได้มากขึ้น
QR Code (Quick Respond Code) เป็นชื่อของบาร์โค้ดลักษณะพิเศษ ภายใต้การจดทะเบียนของบริษัท Denso Wave ในฐานะผู้คิดค้นเป็นรายแรกเมื่อ พ.ศ. 2537 ซึ่งอีกชื่อหนึ่งที่บริษัทผู้พัฒนารายอื่นนิยมเรียกเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาลิขสิทธิ์ก็คือ 2D Bar Code (2Dimension Bar Code) หรือบาร์โค้ด 2 มิติ ด้วยรูปร่างสี่เหลี่ยมจตุรัส ที่ผ่านการเข้ารหัสดิจิตอล สามารถตอบสนองการใช้งานได้รวดเร็ว ส่วนตัวโค้ดสามารถบรรจุข้อมูลสั้นๆ ไม่เยิ่นเย้อ เช่น เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลผลิตภันฑ์ Web URL ของสินค้า หรือแม้กระทั่งไฟล์เอกสารต่างๆ ได้อย่างสบาย
ก่อนการใช้งานจะต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นสำหรับอ่าน QR Code ไว้ในตัวเครื่องก่อนจึงจะสามารถสแกนโค้ดได้ ซึ่งการใช้งาน QR Codeในประเทศญี่ปุ่นนั้นแพร่หลายมาก ในทุกๆ ด้านของการใช้ชีวิตคนเมือง และนักการตลาดในญี่ปุ่นยังใช้ QR Code เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการทำตลาดเวลานี้อีกด้วย
QR ย่อมาจากคำว่า Quick Response มีสัญลักษณ์สี่เหลี่ยมบรรจุข้อมูลต่าง ๆมีการตอบสนองรวดเร็ว ส่วนใหญ่สินค้าหรือบริการต่าง ๆ นำมาใช้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม หรือบรรจุที่อยู่เว็บไซต์เมื่อนำกล้องบนโทรศัพท์มือถือถ่ายไปยัง QR Code ก็จะเข้าสู่เว็บได้ทันที จากเดิมการเข้าเว็บผ่านมือถือมีหลายขั้นตอน และต้องจำที่อยู่เว็บนั้น ๆ ให้ได้
QR Code ยังนำมาประยุกต์ใช้ได้หลายรูปแบบ นอกจากแสดง URL ของเว็บแล้วยังบรรจุข้อความ, เบอร์โทรศัพท์, ข้อมูลตัวอักษร รวมถึงรูปได้ด้วย
ใครอยากมี QR Code ส่วนตัวเข้าไปสร้างเองได้ผ่านเว็บ www.ais.co.th/qrcode ไม่ได้มีแต่สีขาวดำแบบเดิม แต่เลือกสี, โลโก้ และใส่ รูปตนเองลงไปก็ได้ มีให้เลือกสร้างได้ หลายรูปแบบ เช่น เป็นข้อความ เมื่อใช้ มือถือสแกนจะปรากฏข้อความที่เจ้าของ QR Code ต้องการบอก หรือรูปแบบ SMS หน้าจอจะปรากฎข้อความ SMS ที่ต้องการพร้อมส่งทันที
ถ้าเลือกสร้าง QR Code เป็น “อีเมล์” ก็จะปรากฏหน้า Compose email ขึ้นมาโดยมีแอดเดรสของผู้ส่งไว้แล้ว เจ้าของสินค้านำไปประยุกต์ใช้เพื่อรับฟีดแบ็กจากลูกค้าได้
ล่าสุดเปิดตัวบริการ “AIS QR Code Generator” ให้ลูกค้าสร้าง QR Code ของตัวเองได้ฟรีผ่านเว็บไซต์ “สุวิทย์ อารยะพงศ์วิไล” ผู้บริหาร เอไอเอสบอกว่า โทรศัพท์มือถือที่มีกล้อง ดิจิทัลเกือบทุกรุ่นทุกยี่ห้อรองรับการใช้งานได้ โดยเข้าไปโหลดโปรแกรม QR Code Reader ได้ที่ wap.mobilelife.co.th/qr เมื่อติดตั้ง QR Code Reader เรียบร้อยแล้ว เมื่อพบเห็น QR Code แล้วอยากรู้ว่าคืออะไรก็เปิดโปรแกรม ถ่ายรูปสัญลักษณ์ QR Code ระบบ จะแปลงสัญลักษณ์ให้เป็นข้อมูลที่อ่านได้
QR Code Reader ที่ใช้กับมือถือมี 2 ประเภท คือ แบบ real-time ใช้กล้องในโทรศัพท์ส่อง QR Code ได้ทันที และแบบ Snapshot/Capture ต้องเปิดโปรแกรมแล้วถ่ายภาพจากกล้องมือถือ ถ่าย Code ก่อน แล้วประมวล Code ออกมา
“QR Code คือเครื่องมือที่ทำให้คนใช้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น วันนี้มีเจ้าของสินค้านำไปประยุกต์ใช้ได้หลายรูปแบบ ข้อจำกัดอยู่ที่จินตนาการ คุณจะคิดไปได้ไกลแค่ไหนเท่านั้นเอง”
WiseKnow.Com : The Best Marketing Knowledge Provider
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น